Monday, March 17, 2008

Q & A from 3rd HIV Drug resistance Workshop


คำถามจากผู้เข้าร่วมการอบรม
การอบรมเชิงปฏิบัติการ “การดื้อยาต้านเอชไอวี” ครั้งที่ 3
14 กุมภาพันธ์ 2551
ดูคำตอบได้ด้านล่าง

16 comments:

Ramathibodi HIV Research said...

คำถาม
กรณี persistent low-level viremia ได้ทำการส่ง VL ทุก 3 เดือน 3-4 ครั้ง พบว่ายัง persist หรือเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ <2,000 copies/mL จึงยังไม่ได้ทำ resistance testing กรณีเช่นนี้ควรทำอย่างไร ( ผู้ป่วยเด็ก )

คำตอบ ในกรณีที่ปริมาณ CD4 ยังไม่ตก อยู่ในเกณฑ์ที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อฉวยโอกาสน้อย และมียาให้ใช้จำกัด แนะนำให้คงยาเดิมไปก่อน และติดตามปริมาณ VL ทุก 4-6 เดือน และส่งตรวจ genotype เมื่อปริมาณ VL >2,000 copies/mL ทั้งนี้ ในห้องปฏิบัติการที่มาตรฐาน จะสามารถส่งตรวจgenotype ได้ตั้งแต่ปริมาณ VL >1,000 copies/mL และสามารถติดต่อห้องปฏิบัติการได้ว่ามีความจำเป็นต้องตรวจตั้งแต่ปริมาณ VL >1,000 copies/mL ในรายนี้

Ramathibodi HIV Research said...

คำถาม
กรณีที่สามีกินยาต้านเอชไอวี และมี treatment failure แล้ว ภรรยาที่ HIV+ (แต่ยังไม่เริ่มยาต้านเอชไอวี CD4 ยังสูงอยู่) แม้ยืนยันว่าใช้ถุงยางตลอด จะต้องเจาะดูการดื้อยาก่อนกินยาในภรรยาก่อนหรือไม่ เวลาที่เหมาะสมในการเจาะดูการกินยาของภรรยา คือ ก่อนกินยาหรือหลังกินยาต้านเอชไอวีแล้ว 2-4 สัปดาห์ดี

คำตอบ ถ้าคิดว่าผู้ป่วยมีความน่าเชื่อถือพอ อาจจะไม่ต้องเจาะ แต่ถ้าไม่แน่ใจ และสามารถเจาะได้ ควรตรวจดูก่อนให้ยา ถ้าไม่สามารถเจาะตรวจ (จ่าย) ได้ ควรติดตามปริมาณ VL ที่ 3-4 เดือนหลังการเริ่มยาต้านเอชไอวี

Ramathibodi HIV Research said...

คำถาม
ในกรณีที่ผู้ป่วยกิน GPOVIR-S หรือ Z มา 2-3 ปี CD4 เริ่มลดลง สงสัยว่าจะมีการดื้อยา จึงเจาะ VL แต่ในกรณีถ้าผล VL และ drug resistance test นานมาก กว่าจะได้ได้ผล (สมมติ>6 เดือน) ควรให้ผู้ป่วยกินยาสูตรเดิมต่อระหว่างรอผล drug resistance (VL>1000) หรือหยุดยา HAART ไปก่อนรอผล (เพราะระหว่างรออาจมีการดื้อยา เช่น TAMs, etc. มากขึ้นเรื่อยๆ)

คำตอบ ปัจจุบัน ไม่ควรมีที่ใดในประเทศไทยที่ต้องรอผล VL หรือ genotype นานถึง 6 เดือน และถ้ายังต้องรอผลนานเกิน 3 เดือน อาจจะไม่มีประโยชน์ในการส่ง ในกรณีต้องรอผล 1-2 เดือน อาจจะคงยาสูตรเดิมต่อไปได้ ถ้านานกว่านั้น ควรหยุดยาไปก่อนหลังเจาะเลือดส่ง genotype

Ramathibodi HIV Research said...

คำถาม
ผู้ป่วยที่ได้ GPOVIR แล้วมี virological failure ระหว่างรอยาที่ดื้อสูตรพื้นฐาน (second-line regimen)ควรปฏิบัติอย่างไร

คำตอบ หลังเจาะเลือดส่ง genotype แล้ว ถ้าต้องรอยาสูตรใหม่นาน 1-2 เดือน อาจจะคงยาสูตรเดิมต่อไปได้ ถ้านานกว่านั้น ควรหยุดยาไปก่อนหลังเจาะเลือด ควรให้กิน d4T และ 3TC ต่ออีก 7 วัน หลังหยุด GPO-VIR เพื่อป้องกันการเกิดเชื้อดื้อยา NVP

Ramathibodi HIV Research said...

คำถาม
ถ้าตอนหยุดหรือขาดยา ไม่ได้เจาะ genotype ไว้ เราจะสามารถให้ยาเดิมก่อน 4-8 สัปดาห์ได้หรือไม่

คำตอบ ได้ ถ้าขณะหยุด ไม่ได้มีหรือสงสัย virological failure ติดตาม VL หลังให้ยา 8-12 สัปดาห์ แต่ถ้าขณะหยุด มีหรือสงสัย virological failure ไม่ควรทำ ให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อคาดการณ์การดื้อยาที่อาจเกิดขึ้นและเริ่มด้วยยาสูตรใหม่ที่ดีกว่า

Ramathibodi HIV Research said...

คำถาม
มี TAM 2ตัว จะถือว่าดื้อต่อ AZT, d4T ได้ไหม ถ้าไม่มีตัวเลือก จะยังใช้ยาตัวนี้ต่อได้หรือไม่ เพราะ fold change ยังไม่สูงมาก

คำตอบ การดื้อยา AZT และ d4T เป็นแบบค่อยๆสะสมระดับความรุนแรงในการดื้อยา มี 1 TAM ก็เริ่มดื้อแล้ว ถ้ามีเพียง 1 TAMs ที่เป็นตำแหน่ง 41, 210, 215 (pathway 1) ก็ดื้อยาค่อนข้างมาก
แล้ว ไม่ควรเลือกใช้ แต่ถ้ามีแต่ TAMs pathway 2 (67, 70, 215) แล้วไม่มียาตัวเลือกอื่นที่ดีกว่า ยังเลือกใช้ได้ (แต่ใช้ potent boosted PI)

Ramathibodi HIV Research said...

คำถาม
ถ้า compliance ดีมากๆๆๆ (99-100% adherence) มีข้อมูลหรือไม่ว่ากินได้นานสุด (ทั้ง NNRTI–based และ PI-based regimen) ได้นานกี่ปี

คำตอบ ไม่มีข้อมูลที่เป็นการศึกษาโดยตรง แต่รายงานที่นานสุดคือ 7 ปี (EFV-based regimen และ LPV/r-based regimen) ส่วน NRTI backbone ที่มีข้อมูลนานสุดคือ AZT + 3TC

Ramathibodi HIV Research said...

คำถาม
TDF ใช้ในเด็กได้หรือไม่ ถ้าเชื้อดื้อยา NRTI จนเหลือแต่ TDF จะทำอย่างไรกับเด็ก

คำตอบ ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลการศึกษาที่ดูความปลอดภัยของ TDF ในเด็กโดยตรง ทำให้ US FDA ยังไม่ approve สำหรับใช้ในเด็ก แต่มีรายงานจำนวนผู้ป่วยเด็กไม่มากที่แสดงให้เห็นว่าน่าจะปลอดภัย ในบ้านเราก็มีเริ่มใช้กันบ้าง ถ้าจำเป็นต้องใช้เพราะไม่มีทางเลือกอื่น คงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการเจริญเติบโตของกระดูกและการทำงานของไต

Ramathibodi HIV Research said...

คำถาม
กิน GPO-VIR S 2 ปี ดื้อยา VL 80,000 copies/mL
มี 2 TAMs + M184V ไม่มี NNNRT resistance จะยังกล้าใช้ NNRTI ไหม

คำตอบ ก่อนอื่น เมื่อเห็นผลแบบนี้ จะต้องสงสัยว่าผู้ติดเชื้อกินยาแบบ duotherapy มาก่อน GPO-VIR S หรือไม่ และตรวจ genotype ที่ไหน เชื่อถือได้หรือไม่ เพราะเป็นลักษณะ pattern ที่พบได้น้อยมากจากการดื้อยาสูตรแรกที่เป็น d4T/3TC/NVP (มักจะมีการดื้อยา NNRTI ที่ค่อนข้างเร็ว) ถ้าทุกอย่างเชื่อถือได้ ก็สามารถลองใช้ NNRTI ได้ เพียงแต่ต้องติดตามปริมาณ VL ที่ 3-4 เดือนหลังเริ่มยา

Ramathibodi HIV Research said...

คำถาม
มีข้อมูล TDF + ABC แล้วเกิด paradoxical reaction; VL suppressed แต่ CD4 drop ด้วย ข้อมูลปัจจุบันเป็นอย่างไรครับ

คำตอบ ปัญหา TDF + ABC ที่คนกังวลเป็นเรื่องของ failure rate ที่สูง และมาจากการศึกษาที่ใช้ TDF + ABC + 3TC และ TDF + ABC + NNRTI จึงยังไม่ค่อยแน่ชัดว่าการใช้ยา TDF คู่กับ ABC จะมีปัญหาหรือไม่ ถ้าจำเป็นต้องใช้ ให้ติดตามอย่างใกล้ชิด

Ramathibodi HIV Research said...

คำถาม
การพิจารณา subtype แตกต่างกันของ HIV-1 มีผลต่อการเลือกสูตรยาในการเริ่มการรักษาหรือไม่อย่างไร

คำตอบ เท่าที่ข้อมูลมีในปัจจุบัน ยังไม่มีผลต่อการเลือกยา แต่กำลังมีข้อมูลมากขึ้นว่า subtype A/E ที่คนไทยส่วนใหญ่เป็นนั้น มี polymorphism ของ protease gene มากกว่า subtype อื่น ผลที่มีต่อความไวของเชื้อต่อยายังไม่ทราบแน่ชัด

Ramathibodi HIV Research said...

คำถาม
ผู้ป่วยเริ่มกินยา 10/6/48 GPO-VIR (สูตร1); เมื่อ 24/6/48 มีการแพ้ยา NVP พบ erythematous MP rash จึงเปลี่ยนสูตรเป็น d4T + 3TC + EFV จนปัจจุบัน ตรวจ CD4 ล่าสุด =186; VL = 957 copies/mL กรณีนี้ ผู้ป่วย มี VL <1,000 ดังนั้น ผู้ป่วยรายนี้ยังไม่สามารถตรวจ genotypic resistance ได้ และ ให้ตรวจ VL ซ้ำอีกใน 2-3 เดือน ต่อมาในกรณีนี้ถ้าไม่สามารถตรวจ VL ซ้ำในปีเดียวกันได้ จะสามารถตรวจ drug resistance ได้เลยไหม

คำตอบ ในกรณีที่ปริมาณ CD4 ยังไม่ตก อยู่ในเกณฑ์ที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อฉวยโอกาสน้อย และมียาให้ใช้จำกัด แนะนำให้คงยาเดิมไปก่อน และติดตามปริมาณ VL ทุก 4-6 เดือน (สามารถตรวจ VL ซ้ำในปีเดียวกันได้ เพียงแต่ต้องออกเงินเองบ้าง) และส่งตรวจ genotype เมื่อปริมาณ VL >2,000 copies/mL ทั้งนี้ ในห้องปฏิบัติการที่มาตรฐาน จะสามารถส่งตรวจgenotype ได้ตั้งแต่ปริมาณ VL >1,000 copies/mL และสามารถติดต่อห้องปฏิบัติการได้ว่ามีความจำเป็นต้องตรวจตั้งแต่ปริมาณ VL >1,000 copies/mL ในรายนี้

Ramathibodi HIV Research said...

คำถาม
Lamivudine tab 150 mg ใช้ 2 tab เป็น OD dose ได้ไหม

คำตอบ ได้

Ramathibodi HIV Research said...

คำถาม
ชาย 47 ปี ได้ยา TDF + 3TC + LVP/r จาก รพ.เอกชน ~ 1 ปี CD4 เพิ่มขึ้น VL undetectable ผู้ป่วยย้ายเข้าโครงการจะเปลี่ยนยาได้หรือไม่

คำตอบ ได้ เพียงแต่ต้องทบทวนประวัติว่าก่อนที่จะได้ยาสูตรนี้ เคยมีการรักษาล้มเหลวจากยาสูตรอื่นมาก่อนหรือไม่ ถ้ามี ต้องหลีกเลี่ยงยาที่น่าจะดื้อ ถ้าไม่มี ก็เปลี่ยนเป็นยาสูตรแรกได้ เพียงแต่ต้องระวังถ้าเลือกใช้ NVP ในรายที่มี CD4 สูง

Ramathibodi HIV Research said...

คำถาม
ผู้ป่วยเคยได้ยา GPO-VIR S 4ปี แล้วเปลียนเป็น GPO-VIR Z 6 เดือน แล้วตรวจ HIV drug resistance ได้ผลดังนี้
RT: A62V, V75I, K101E, Y115F, F116Y, Q151M, M184V, G190A, K219E
PR: I13V, M36I, H69K, l89M
จะสามารถเลือกสูตรยา TDF + 3TC + LVP/r ได้หรือไม่

คำตอบ น่าจะได้ เนื่องจากมีข้อจำกัดของ NRTIs ที่เหลือ ทำให้เรายอม recycle 3TC แต่ต้องใช้กับ LPV/r เพราะ LPV/r เป็น potent PI

Ramathibodi HIV Research said...

คำถาม
กิน GPO-VIR S 1 ปีกว่า ดื้อยา
ถ้ามี Q151M, T69S, K65R, 3 TAMs, NNRTI resistance mutation
ถามความเห็นว่าจะให้ NRTI backbone เป็นตัวไหน

คำตอบ ไม่มียา NRTIs ที่ไวแล้ว จะเลือก AZT+TDF+3TC (+ LPV/r)